วันเสาร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555
ร้านอาหารทะเล
ร้านแดร้านเเดงอาหารแ
ร้านแดงอาหารทะเล แม่กลอง
ร้านแดงอาหารทะเล” หรือร้าน เจ๊แดง ได้ยินกิตติศัพท์ความดังและความอร่อยของร้านนี้มานาน มาเที่ยวอัมพวาครั้งนี้เลยถือโอกาสแวะรับประทานอาหารทะเลสดๆที่ร้านนี้ซักหน่อย โดยเฉพาะเมนูปูทะลนึ่ง ที่หลายคน confirm ว่า ปูทะเลตัวโต สดอร่อย เนื้อแน่น อร่อยน่ารับประทานแค่ไหนมาลองชิมกันดีกว่าค่ะ
ร้านเจ๊แดง ถือได้ว่าเป็นต้นตำรับขออาหารทะเลสด มีให้เลือกรับประทานทั้ง ปูทะเล กุ้ง หอย ปู ปลา อาหารทุกจานใหญ่และเยอะ สมราคา แนะนำว่าควรมากันหลายท่านจะได้สั่งได้หลากหลาย และก็จะได้ช่วยกันรับประทานด้วยค่ะ
เมนูของร้านนี้มีให้เลือกมากมายค่ะ แต่เมนูเด่นแนะนำของร้านเริ่มจาก ปูเนื้อ,ปูไข่นึ่ง, หอดหลอดผัดฉ่า,ปลาทูตาเตี้ย,ปลาหมึกผัดกระเทียม,กุ้งอบเกลือ,ปลาจะละเม็ดทอดน้ำปลา สั่งข้าวผัดกุ้งมากรับประทานกับเมนูต่างๆ กุ้งตัวใหญ่มาก ที่นี่อาหารทุกอย่างเค้าเน้นความใหญ่จริงๆ
เริ่มจากเมนูแรกที่สั่งกันเลยดีกว่าค่ะ เมนูเด่นของร้าน ปูไข่นึ่ง จานโต เห็นไข่ปูแดงมาแต่ไกลน่าทานมาก
รับประทานพร้อมน้ำจิ้มซีฟู้ดที่ทางร้านเตรียมให้รสชาติกล่อมกล่อมเข้ากันดีมากค่ะ ยังมีน้ำจิ้มแบบน้ำปลาพริกแถมมาให้อีกด้วย
น่าทานมั้ยค่ะ
ปูเนื้อแน่น อร่อยเยี่ยมมากค่ะ
แม่กลองขึ้นชื่อเรื่องปลาทูอยู่แล้วค่ะ ตัวเล็กหน้างอ คอหัก แต่เนื้ออร่อยอย่าบอกใคร เมนูต่อมาของเราที่ขาดไม่ได้ คือปลาทูตาเตี้ย ที่หมดในชั่วพริบตา สมาชิกทุกคนให้คะแนนความอร่อยให้โดยพร้อมเพรียงกันว่า จานนี้อร่อยที่สุด เนื้อปลาทูนุ่มหวานมาก
หอยหลอดผัดฉ่า อาหารขึ้นชื้อของดอยหอยหลอด เมนูนี้สำหรับสมาชิกที่ทาน บอกว่ารสชาติพอใช้ได้ ติดนิดเดียวแอบเค็มไปหน่อย
ต่อมาแกงส้มปูค่ะ ทานแล้วรสชาติพอใช้ได้ แต่น้ำจะไม่ค่อยเป็นแกงส้มเท่าไหร่ ออกแนวต้มส้มมากกว่าค่ะ
เมนูสุดท้าย ปลาจาระเม็ดทอดนน้ำปลา มาเสริฟืครั้งแรกตหใจกันทั้งโต๊ะ ตัวใหญ่มากสำหรับรสชาติ เนื้อนุ่มกรอบดีค่ะ แต่ราคสูงเอาการอยู่ค่ะ ตัวนี่ถ้าจำไม่ผิด 800 กว่าบาท เป็นเมนูอาหารที่ราคารองจากปูนึ่งเลยทีเดียว
อิ่มอร่อยกันเรียบร้อย กับร้านอาหารทะเลเจ๊แดง เจ้าเก่า เมนูเด่นอันดับ 1 ปูนึ่ง ถือว่าคุ้มค่าไม่ผิดหวัง เพราะพูดถึงร้านเจ๊แดง ต้องนึกถึงปูตัวใหญ่ ๆ สด ๆ อันดับแรกค่ะ รองมาคือ เมนูปลาทู ทั้งหลาย ที่เนื้อนุ่ม สด เช่นกัน แต่เมนูอื่นที่สั่งมาสำหรับเราถือว่ารสชาติยังปานกลางค่ะ
เทศการประเภณี
เทศกาลประเพณี
งานผ้อต่อ
สำหรับประเพณีนี้เป็นประเพณีที่เป็นเรื่องความเชื่อของจีนที่ว่า ในวันที่ 15 ของเดือน 7 ของจีน นับเป็นวันครึ่งปีตามคตินิยมของจีนเป็นวันที่วิญญาณจะได้รับการปลดปล่อยให้กลับมาเยี่ยมบ้านญาติพี่น้อง จึงได้มีการบวงสรวงวิญญาณบรรพบุรุษ ตามบ้านเรือนจะตกแต่งแท่นบูชาอย่างสวยงามพร้อมทั้งอาหารคาวหวานและเครื่องกงเต็ก ส่วนดวงวิญญาณที่ไม่มีญาติ แต่ละบ้านก็จะจัดแท่นบูชาพร้อมทั้งอาหารคาวหวานไว้ที่หลังบ้านนอกจากนี้แล้วตามศาลเจ้าต่างๆในเกาะภูเก็ตจะเต็มไปด้วยขนมและผลไม้ที่ผู้ศรัทธานำมาถวาย ล้วนแต่แต่ได้รับการประดับตกแต่งมาเป็นอย่างดี ผลไม้บางอย่างแกะสลักอย่างสวยงาม เป็นที่ตื่นตาตื่นใจแก่ผู้ที่อยู่ในบรรยากาศของพิธีนี้ยิ่งนัก ประเพณีนี้จัดยิ่งใหญ่ทุกปี ที่บริเวณซอยโรงเรียนเทศบาลบ้านบางเหนียว ถนนตะกั่วทุ่ง ตัดถนนภูเก็ต ทางไปสะพานหิน เครื่องที่นำมาบวงสรวงวิญญาณบรรพบุรุษ เป็นขนมชนิดหนึ่งทำด้วยแป้งเป็นรูปเต่าขนาดใหญ่บ้างเล็กบ้างทาสีแดง ซึ่งคนจีนเชื่อว่าเต่าเป็นสัตว์ที่มีอายุยืนดังนั้นการไหว้เต่าจึงเป็นการต่ออายุให้ตนเองและถือเป็นกุศลที่ยิ่งใหญ่ |
งานท้าวเทพกษัตรีย์-ท้าวศรีสุนทร
ตรงกับวันที่ 13 มีนาคมของทุกปี มีการจัดงานเฉลิมฉลอง มีกิจกรรมต่างๆ มากมาย เพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ที่สองวีรสตรีสามารถปกป้องเมืองถลางให้รอดพ้นจากข้าศึกพม่าและสดุดีในวีรกรรมของท่าน
ตรงกับวันที่ 13 มีนาคมของทุกปี มีการจัดงานเฉลิมฉลอง มีกิจกรรมต่างๆ มากมาย เพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ที่สองวีรสตรีสามารถปกป้องเมืองถลางให้รอดพ้นจากข้าศึกพม่าและสดุดีในวีรกรรมของท่าน
เทศกาลอาหารทะเล
จัดขึ้นประมาณเดือนพฤษภาคมของทุกปี มีวัตถุประสงค์ที่จะเผยแพร่อาหารทะเลที่มีชื่อเสียงของจังหวัดภูเก็ต ชักชวนให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวภูเก็ตในฤดูฝน กิจกรรมของงานมีการประกวดขบวนแห่ทรัพยากรท่องเที่ยวทางทะเล การออกร้านจำหน่ายอาหารทะเล การสาธิตอาหารประจำภาค การแสดงศิลปวัฒนธรรมของภาคต่างๆ
จัดขึ้นประมาณเดือนพฤษภาคมของทุกปี มีวัตถุประสงค์ที่จะเผยแพร่อาหารทะเลที่มีชื่อเสียงของจังหวัดภูเก็ต ชักชวนให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวภูเก็ตในฤดูฝน กิจกรรมของงานมีการประกวดขบวนแห่ทรัพยากรท่องเที่ยวทางทะเล การออกร้านจำหน่ายอาหารทะเล การสาธิตอาหารประจำภาค การแสดงศิลปวัฒนธรรมของภาคต่างๆ
เทศกาลกินเจ
กำหนดจัดในวันขึ้น 1-9 ค่ำ เดือน 9 ของจีน จะอยู่ในช่วงเดือนกันยายน-ตุลาคมของทุกปี ระหว่างถือศีลกินผัก ชาวบ้านจะไปรับอาหารจากศาลเจ้า มีพิธีกรรมตามความเชื่อ เช่น ลุยไฟ ไต่บันไดมีด ฯลฯ มีการแห่เจ้าไปตามถนนต่างๆ โดยชาวบ้านสองฝั่งถนนจะจุดปะทัดตลอดสายประเพณีกินเจนี้ถือว่าเป็นการอุทิศความดีให้กับพระและเทวดาฟ้าดินเพื่อให้พระคุ้มครองชาวภูเก็ตและเกาะภูเก็ตตลอดไป
กำหนดจัดในวันขึ้น 1-9 ค่ำ เดือน 9 ของจีน จะอยู่ในช่วงเดือนกันยายน-ตุลาคมของทุกปี ระหว่างถือศีลกินผัก ชาวบ้านจะไปรับอาหารจากศาลเจ้า มีพิธีกรรมตามความเชื่อ เช่น ลุยไฟ ไต่บันไดมีด ฯลฯ มีการแห่เจ้าไปตามถนนต่างๆ โดยชาวบ้านสองฝั่งถนนจะจุดปะทัดตลอดสายประเพณีกินเจนี้ถือว่าเป็นการอุทิศความดีให้กับพระและเทวดาฟ้าดินเพื่อให้พระคุ้มครองชาวภูเก็ตและเกาะภูเก็ตตลอดไป
งานประเพณีปล่อยเต่า
ตรงกับวันที่ 13 เมษายน หรือวันสงกรานต์ของทุกปี กรมประมงได้กำหนดให้เป็นวันประมงแห่งชาติ มีประเพณีปล่อยลูกเต่าลงทะเลโดยจะจัดงานในบริเวณหาดต่างๆ ในภูเก็ต
ตรงกับวันที่ 13 เมษายน หรือวันสงกรานต์ของทุกปี กรมประมงได้กำหนดให้เป็นวันประมงแห่งชาติ มีประเพณีปล่อยลูกเต่าลงทะเลโดยจะจัดงานในบริเวณหาดต่างๆ ในภูเก็ต
งานประเพณีลอยเรือชาวเล
จะมีพิธีในกลางเดือน 6 และ 11 ของทุกปี โดยกลุ่มชาวเลที่หาดราไวและบ้านสะปำจะมีพิธีลอยเรือในวันขึ้น 13 ค่ำ และกลุ่มชาวเลที่แหลมหลา (ทางตอนเหนือของเกาะภูเก็ต) จะมีพิธีลอยเรือในวันขึ้น 15 ค่ำ ซึ่งถือเป็นพิธีสะเดาะเคราะห์ของชาวเลคล้ายกับพิธีลอยกระทงของชาวไทย มีการสร้างเรือจากไม้ระกำ ตัดผมตัดเล็บ และทำตุ๊กตาไม้แทนคน ใส่ลงไปในเรือ แล้วนำไปลอยเพื่อนำเอาความทุกข์โศก เคราะห์ร้ายต่างๆ ออกไปกับทะเล แล้วมีการร่ายรำรอบเรือ หรือที่เรียกว่า “รำรองเง็ง” นั่นเอง
จะมีพิธีในกลางเดือน 6 และ 11 ของทุกปี โดยกลุ่มชาวเลที่หาดราไวและบ้านสะปำจะมีพิธีลอยเรือในวันขึ้น 13 ค่ำ และกลุ่มชาวเลที่แหลมหลา (ทางตอนเหนือของเกาะภูเก็ต) จะมีพิธีลอยเรือในวันขึ้น 15 ค่ำ ซึ่งถือเป็นพิธีสะเดาะเคราะห์ของชาวเลคล้ายกับพิธีลอยกระทงของชาวไทย มีการสร้างเรือจากไม้ระกำ ตัดผมตัดเล็บ และทำตุ๊กตาไม้แทนคน ใส่ลงไปในเรือ แล้วนำไปลอยเพื่อนำเอาความทุกข์โศก เคราะห์ร้ายต่างๆ ออกไปกับทะเล แล้วมีการร่ายรำรอบเรือ หรือที่เรียกว่า “รำรองเง็ง” นั่นเอง
เทศกาลเปิดฤดูกาลท่องเที่ยว จังหวัดภูเก็ต
ตรงกับวันที่ 1 พฤศจิกายน โดยเริ่มจัดงานครั้งแรกเมื่อปี 2528 ณ หาดป่าตอง เพื่อต้อนรับฤดูการท่องเที่ยวที่เวียนมาถึงอีกครั้ง และเป็นการส่งเสริมความสามัคคีระหว่างผู้ประกอบธุรกิจสาขาต่างๆ หน่วยงานราชการและประชาชน ในงานมีกิจกรรมต่างๆ มากมาย อาทิ พิธีตักบาตรในตอนเช้า การแข่งขันกีฬาทางน้ำ การประกวดสาวงามจากนักท่องเที่ยวต่างๆ เป็นต้น
ตรงกับวันที่ 1 พฤศจิกายน โดยเริ่มจัดงานครั้งแรกเมื่อปี 2528 ณ หาดป่าตอง เพื่อต้อนรับฤดูการท่องเที่ยวที่เวียนมาถึงอีกครั้ง และเป็นการส่งเสริมความสามัคคีระหว่างผู้ประกอบธุรกิจสาขาต่างๆ หน่วยงานราชการและประชาชน ในงานมีกิจกรรมต่างๆ มากมาย อาทิ พิธีตักบาตรในตอนเช้า การแข่งขันกีฬาทางน้ำ การประกวดสาวงามจากนักท่องเที่ยวต่างๆ เป็นต้น
งานแข่งขันเรือใบชิงถ้วยพระราชทาน
เริ่มมีขึ้นครั้งแรก เมื่อ พ.ศ. 2530 เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เนื่องในวโรกาสที่ทรงเจริญพระชนมายุครบ 5 รอบ และหลังจากนั้นจึงถือกำหนดจัดงานขึ้นในช่วงวันเฉลิมพระชนมพรรษา ซึ่งตรงกับวันที่ 5 ธันวาคมของทุกปี โดยมีเรือใบจากนานาประเทศทั่วโลกเข้าร่วมการแข่งขันบริเวณหาดในหานเพื่อชิงถ้วยพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ
เริ่มมีขึ้นครั้งแรก เมื่อ พ.ศ. 2530 เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เนื่องในวโรกาสที่ทรงเจริญพระชนมายุครบ 5 รอบ และหลังจากนั้นจึงถือกำหนดจัดงานขึ้นในช่วงวันเฉลิมพระชนมพรรษา ซึ่งตรงกับวันที่ 5 ธันวาคมของทุกปี โดยมีเรือใบจากนานาประเทศทั่วโลกเข้าร่วมการแข่งขันบริเวณหาดในหานเพื่อชิงถ้วยพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ
อาหารทะเลบำรุงสมอง
|
|
|
วันอาทิตย์ที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2555
ขนมไทย
ประวัติความเป็นมาของขนมไทย
ในสมัยโบราณคนไทยจะทำขนมเฉพาะวาระสำคัญเท่านั้น เป็นต้นว่างานทำบุญ เทศกาลสำคัญ หรือต้อนรับแขกสำคัญ เพราะขนมบางชนิดจำเป็นต้องใช้กำลังคนอาศัยเวลาในการทำพอสมควร ส่วนใหญ่เป็น ขนบประเพณี เป็นต้นว่า ขนมงาน เนื่องในงานแต่งงาน ขนมพื้นบ้าน เช่น ขนมครก ขนมถ้วย ฯลฯ ส่วนขนมในรั้วในวังจะมีหน้าตาจุ๋มจิ๋ม ประณีตวิจิตรบรรจงในการจัดวางรูปทรงขนมสวยงามขนมไทยดั้งเดิม มีส่วนผสมคือ แป้ง น้ำตาล กะทิ เท่านั้น ส่วนขนมที่ใช้ไข่เป็นส่วนประกอบ เช่น ทองหยิบ ทองหยอด เม็ดขนุน นั้น มารี กีมาร์ เดอ ปีนา (ท้าวทองกีบม้า)หญิงสาวชาวโปรตุเกส เป็นผู้คิดค้นขึ้นมา
ขนมไทยที่นิยมทำกันทุกๆ ภาคของประเทศไทย ในพิธีการต่างๆ เนื่องในการทำบุญเลี้ยงพระ ก็คือขนมจากไข่ และมักถือเคล็ดจากชื่อและลักษณะของขนมนั้นๆ งานศิริมงคลต่างๆ เช่น งานมงคลสมรส ทำบุญวันเกิด หรือทำบุญขึ้นบ้านใหม่ ส่วนใหญ่ก็จะมีการเลี้ยงพระกับแขกที่มาในงาน เพื่อเป็นศิริมงคลของงานขนมก็จะมีฝอยทอง เพื่อหวังให้อยู่ด้วยกันยืดยาว มีอายุยืน ขนมชั้นก็ให้ได้เลื่อนขั้นเงินเดือน ขนมถ้วยฟูก็ขอให้เฟื่องฟู ขนมทองเอกก็ขอให้ได้เป็นเอก เป็นต้น
สมัยรัตนโกสินทร์ จดหมายเหตุความทรงจำของกรมหลวงนรินทรเทวี กล่าวไว้ว่าในงานสมโภชพระแก้วมรกตและฉลองวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ได้มีเครื่องตั้งสำรับหวานสำหรับพระสงฆ์ 2,000 รูป ประกอบด้วย ขนมไส้ไก่ ขนมฝอย ข้าวเหนียวแก้ว ขนมผิง กล้วยฉาบ ล่าเตียง หรุ่ม สังขยา ฝอยทอง และขนมตะไล
ในสมัยรัชกาลที่ 5 มีการพิมพ์ตำราอาหารออกเผยแพร่ รวมถึงตำราขนมไทยด้วย จึงนับได้ว่าวัฒนธรรมขนมไทยมีการบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษรครั้งแรก ตำราอาหารไทยเล่มแรกคือแม่ครัวหัวป่าก์ เขียนโดยท่านผู้หญิงเปลี่ยน ภาสกรวงศ์ ในหนังสือเล่มนี้ มีรายการสำรับของหวานเลี้ยงพระได้แก่ ทองหยิบ ฝอยทอง ขนมหม้อแกง ขนมหันตรา ขนมถ้วยฟู ขนมลืมกลืน ข้วเหนียวแก้ว วุ้นผลมะปราง
ในสมัยต่อมาเมื่อการค้าเจริญขึ้นในตลาดมีขนมนานาชนิดมาขาย ทั้งขายอยู่กับที่ แบกกระบุง หาบเร่ และมีการปรับปรุงการบรรจุหีบห่อไปตามยุคสมัย เช่นในปัจจุบันมีการบรรจุในกล่องโฟมแทนการห่อด้วยใบตองในอดีต
VDO ขนมไทย
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)